ฝึกสุนัขขับถ่ายเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจเพราะมีกฎหมายบังคับใช้แล้ว สำหรับคนเลี้ยงสุนัขอาจเป็นเรื่องปกติที่ต้องเคยเจอปัญหาน้องหมาอึและฉี่ไม่เป็นที่เป็นทาง บางครั้งก็ปล่อยเรี่ยราดจนเลอะข้าวของ แถมยังส่งกลิ่นเหม็นและสกปรกไปทั่ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่เลี้ยงเอาไว้ในบ้าน แต่เรื่องนี้สามาถแก้ปัญหาได้ด้วย การฝึกสุนัขขับถ่าย บอกลาปัญหาต้องคอยตามเช็ดตามล้างให้เหนื่อย แต่ต้องทำอย่างไร มีวิธีแบบไหน และมีเทคนิคอะไรบ้าง มาดูวิธีฝึกสุนัขขับถ่ายในบทความนี้กันได้เลย
การฝึกสุนัขขับถ่ายสำคัญอย่างไร
การพาสุนัขตัวใหม่เข้าบ้านเป็นเรื่องที่ทั้งน่าตื่นเต้นและน่าจดจำ แม้จะมีสิ่งต่างๆ มากมายที่ลูกสุนัขต้องเรียนรู้ที่จะมาอยู่กับเจ้าของใหม่ แต่สิ่งแรกที่เจ้าของควรรีบสอนลูกสุนัขเป็นอย่างแรกเมื่อย่างเท้าเข้าบ้าน ก็คือวินัยเรื่องการขับถ่าย เพราะลูกสุนัขปัสสาวะบ่อยมากถึง 12 ครั้งต่อวัน หมั่นสังเกตว่าลูกสุนัขต้องการออกไปขับถ่ายข้างนอกเมื่อใด และสอนให้เขารู้ว่าต้องทำอย่างไร
การฝึกสุนัขขับถ่ายนั้นต้องอาศัยความพยายามในการปลูกฝังสุนัขให้เข้าใจเส้นแบ่งระหว่าง “พื้นที่เล่น” และ “ห้องน้ำ” โดยอาจกันพื้นที่ไว้ส่วนหนึ่งเป็นห้องน้ำและโรยด้วยเศษเปลือกไม้ เพื่อทำให้บริเวณนี้มีลักษณะและกลิ่นแตกต่างไปจากบริเวณอื่นๆ วิธีการนี้จะช่วยให้ลูกสุนัขเรียนรู้และจดจำได้ในไม่ช้า ส่วนใหญ่สุนัขชอบทำธุระในที่ธรรมชาติมากกว่าพื้นปูนหรือพื้นปูกระเบื้อง ดังนั้นเปลือกไม้หรือหญ้าจะช่วยให้พวกเขาได้กลิ่นเดิมที่ตนเคยขับถ่ายไว้ สิ่งสำคัญที่สุดในการฝึกสุนัขขับถ่ายนี้คือ คุณจะต้องรักษาความสะอาดบริเวณห้องน้ำทุกวัน เพื่อกระตุ้นให้พวกเขากลับไปใช้บริเวณนี้ซ้ำอีก มูลหรือสิ่งสกปรกที่หลงเหลืออยู่อาจทำให้พวกเขาไม่อยากใช้พื้นที่นี้และหันไปหาบริเวณอื่นแทนเพื่อทำธุระส่วนตัว
ระยะเวลาในการฝึกสุนัขขับถ่าย
การฝึกสุนัขขับถ่ายตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัขจะใช้เวลาประมาณ 4-6 เดือน แต่ก็ขึ้นอยู่กับขนาด อายุ และความสามารถในการเรียนรู้ของแต่ละตัว ลูกสุนัขบางตัวเรียนรู้ได้เร็วภายในเวลา 2-3 สัปดาห์ ในขณะที่บางตัวอาจใช้เวลานานกว่า หรืออาจนานเป็นปีเลยทีเดียว โดยปกติจะบอกได้ว่าสุนัขต้องการขับถ่ายเมื่อใดเพราะพวกเขาจะมองไปรอบๆ อย่างกระวนกระวาย เดินวนเป็นวงกลม เริ่มดมตามมุมและหาที่เหมาะๆ ซึ่งอาการเหล่านี้เองที่บอกเป็นนัยว่า ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องพาพวกเขาออกไปทำธุระข้างนอก พาเขาเดินอย่างสงบไปยังบริเวณสำหรับขับถ่าย ให้เวลาเขาสักนิด เพราะบางทีลูกสุนัขอาจยังตื่นเต้นกับสิ่งแวดล้อมภายนอกแม้ว่าจะต้องการขับถ่ายแล้วก็ตาม
การฝึกสุนัขขับถ่ายให้พยายามหลีกเลี่ยงการอุ้มออกไปขับถ่ายนอกบ้าน ปล่อยให้ลูกสุนัขของคุณเดินเอง เพราะนอกจากจะเป็นการกระตุ้นกระเพาะปัสสาวะและลำไส้แล้ว ยังช่วยให้เขารู้จักพึ่งพาตนเองและมีความมั่นใจในสิ่งแวดล้อมรอบตัว เมื่อกำหนดบริเวณห้องน้ำของลูกสุนัขได้แล้ว พาเขาไปขับถ่ายที่ดังกล่าวเป็นประจำและให้รางวัลด้วย หากลูกสุนัขดมไปรอบๆ แต่ยังไม่ทำอะไร คุณอาจต้องอดทนรอสักนิด แต่หากว่าเขายังไม่ขับถ่าย พาเขากลับเข้าบ้านและคอยสังเกตในช่วง 5 นาทีแรก หากเห็นสัญญาณเตือนว่าเขาต้องการเข้าห้องน้ำ พาเขาออกไปข้างนอกอีกครั้ง
1. เข้าใจพฤติกรรมของสุนัข
การฝึกสุนัขขับถ่ายควรเริ่มต้นฝึกตั้งแต่ช่วงที่สุนัขมีอายุประมาณ 7½-8½ สัปดาห์ แต่ถึงแม้สุนัขของคุณจะมีอายุมากกว่านี้ก็สามารถฝึกฝนได้ เพียงแค่อาจจะฝึกยากและใช้เวลานานกว่าตอนที่ยังเป็นลูกสุนัขเท่านั้น ที่สำคัญอย่าลืมว่าสุนัขไม่สามารถเข้าใจเรื่องราวทุกอย่างได้ในทันที ฉะนั้นเจ้าของต้องให้เวลาและใจเย็นให้มากๆ รวมถึงควรหลีกเลี่ยงการทำโทษเวลาที่สุนัขไม่ปฏิบัติตามด้วย เพราะนั่นอาจจะทำให้เขากลัวและไม่เชื่อฟัง
นอกจากนี้การฝึกสุนัขขับถ่ายให้สังเกตภาษากายของสุนัขที่เป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากเรารู้ว่าเมื่อไรสุนัขจะขับถ่าย ก็จะทำให้เราเตรียมรับมือกับมันได้ง่ายขึ้น โดยถ้าสุนัขของใครมีอาการเริ่มเดินวน ดมกลิ่น นั่งยอง และหางตั้งละก็ ให้รีบอุ้มไปเข้าห้องน้ำอย่างไว เพราะนี่คือสัญญาณบอกว่าถึงเวลาขับถ่ายแล้ว ส่วนถ้าหากฝึกไปฝนมาแล้วใครยังมีปัญหาสุนัขขับถ่ายเรี่ยราดอยู่ ให้ลองพูดเสียงดังว่า “อย่า” “ห้าม” หรือ “หยุด สักพักสุนัขก็จะเรียนรู้ตามสัญชาตญาณเอง
2. กำหนดเวลาให้อาหาร
เพื่อให้การฝึกสุนัขขับถ่ายเป็นเรื่องง่ายขึ้น เจ้าของควรกำหนดตารางเวลาในการให้อาหารอย่างเหมาะสม พร้อมทั้งควรหลีกเลี่ยงการปล่อยให้สุนัขกินอาหารตามต้องการด้วย เพราะถ้าหากสุนัขกินทั้งวันก็จะทำให้สุนัขขับถ่ายทั้งวัน โดยขั้นตอนแรกเจ้าของควรไปปรึกษากับสัตวแพทย์เพื่อกำหนดปริมาณอาหารที่สุนัขแต่ละตัวต้องการในแต่ละวันก่อน จากนั้นก็ลงมือทำตามตารางปริมาณการให้อาหารในแต่ละวัน พยายามอย่าให้สุนัขกินนอกเวลา และหลังจากให้อาหารไปประมาณ 20 นาที ควรรีบเทเศษที่เหลือทิ้งให้หมดทันที
3. เลือกสถานที่ให้เหมาะสม
เจ้าของควรเลือกห้องน้ำให้เหมาะสมกับสุนัขแต่ละตัวเมื่อจะฝึกสุนัขขับถ่าย พยายามหลีกเลี่ยงบริเวณที่คนพลุกพล่าน และที่สำคัญพื้นที่ขับถ่ายของสุนัขควรมีพื้นกว้างพอเหมาะกับขนาดของสุนัขด้วย เพราะจริงๆ เราคงไม่อยากเก็บอึหรือฉี่ในบริเวณแคบๆ ที่ส่งกลิ่นเหม็นและสกปรกได้ง่าย แต่บางครั้งสุนัขก็อาจจะเลือกห้องน้ำด้วยตัวเองบ้างเหมือนกัน ฉะนั้นก็ลองสังเกตดูว่าเจ้าตูบชอบวิ่งไปฉี่หรืออึที่ไหนบ่อยๆ แล้วก็เอากระบะทรายไปวางบริเวณนั้นได้เลย
4. ฝึกให้ทำตามคำสั่ง
เทคนิคที่ช่วยให้การฝึกสุนัขขับถ่ายเป็นที่เป็นทางได้ง่ายดายขึ้น คือการฝึกให้ทำตามคำสั่ง โดยขั้นแรกเจ้าของต้องพาสุนัขไปยังบริเวณห้องน้ำที่ต้องการก่อน จากนั้นก็ออกคำสั่งสั้นๆ ง่ายๆ เช่น “เข้าห้องน้ำ” “อึ” หรือ “เบ่ง” เสร็จแล้วรอจนกว่าสุนัขจะขับถ่ายพร้อมตบท้ายด้วยการให้รางวัล แต่ถ้าหากสุนัขไม่ยอมอึก็ให้พากลับเข้าบ้านแล้วค่อยพาออกมาลองใหม่อีกครั้ง รับรองไม่นานสุนัขก็จะขับถ่ายเป็นที่เป็นทาง ไม่ปล่อยเรี่ยราด และทำตามคำสั่งได้แน่นอน
5. ฝึกให้เข้าห้องน้ำ
สำหรับเจ้าของคนไหนที่ต้องการฝึกสุนัขขับถ่ายในสวน แต่กลับเจอปัญหาเจ้าตูบวิ่งไปทั่วจนปล่อยระเบิดไม่เป็นที่เป็นทาง ลองนำเชือกมามัดสุนัขไว้กับที่ หรือไม่ก็หารั้วมากั้นกักบริเวณชั่วคราวในพื้นที่ที่เราต้องการจะให้สุนัขขับถ่าย จากนั้นรอจนกว่าเจ้าตูบจะอึหรือฉี่ แล้วค่อยปลดเชือก ปลดรั้วเพื่อปล่อยสุนัขออกมา รับรองไม่นานเกินรอสุนัขต้องจำห้องน้ำได้ และไม่ปล่อยฉี่หรืออึเรี่ยราดแน่นอน
6. ใช้กลิ่นหรือคราบเก่าเป็นเหยื่อล่อ
เพื่อให้การฝึกสุนัขขับถ่ายเป็นเรื่องง่ายขึ้น เจ้าของสามารถนำกลิ่นหรือคราบจากฉี่และอึไปวางล่อไว้ในบริเวณที่ต้องการได้ โดยเหยื่อล่อนี้จะช่วยดึงดูดและบ่งบอกให้สุนัขรู้ว่ามาเข้าห้องน้ำถูกที่ถูกทางแล้ว หลังจากนั้นเมื่อสุนัขขับถ่ายในบริเวณดังกล่าวเสร็จเรียบร้อย ก็ค่อยนำเหยื่อล่อไปทิ้งได้เลย แล้วอย่าลืมทำความสะอาดห้องน้ำให้หายสกปรกด้วย เพราะถ้าหากพื้นที่เลอะเทอะมากเกินไป สุนัขก็จะหาที่ขับถ่ายใหม่เพื่อปล่อยระเบิดนั่นเอง
7. กำหนดเวลาขับถ่าย
การฝึกสุนัขขับถ่ายให้กำหนดระยะเวลาขับถ่ายของสุนัขและพาไปเข้าห้องน้ำตามช่วงที่คาดการณ์ไว้ ถือเป็นการฝึกเจ้าตูบให้ขับถ่ายเป็นที่เป็นทางและเป็นเวลามากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ความถี่ของการเข้าห้องน้ำของสุนัขแต่ละตัวมักจะขึ้นอยู่กับอายุและสายพันธุ์ ให้เจ้าของลองสังเกตง่ายๆ จากการฝึกขับถ่ายต่างๆ ว่าสุนัขมักจะเข้าส้วมเมื่อไหร่ ตอนไหน จากนั้นก็กำหนดตารางเวลา ตั้งเตือน และหาทางพาเจ้าตูบไปเข้าห้องน้ำ ฝึกบ่อยๆ หลายๆ วันจนกระทั่งสุนัขสามารถขับถ่ายเป็นที่เองได้
8. ให้รางวัลเมื่อขับถ่ายเป็นที่
เมื่อสุนัขกลับเข้าห้องน้ำที่เดิม อย่าลืมให้รางวัลเป็นขนม คำชม หรือพาไปวิ่งเล่น แต่ถ้าหากสุนัขไม่ยอมกลับเข้าห้องน้ำที่เดิม ให้พากลับเข้าบ้านทันที อย่าให้รางวัล หรือปล่อยให้วิ่งเล่น จากนั้นค่อยลองพาออกมาลองใหม่ ทำซ้ำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าการฝึกสุนัขขับถ่ายจะจำที่ฉี่หรือจุดอึประจำของตัวเองได้
9. ทำความสะอาดคราบให้เอี่ยม
ธรรมชาติของสุนัขมักจะกลับไปขับถ่ายในที่ประจำ ถ้าเราทำความสะอาดไม่หมด สุนัขจะกลับไปขับถ่ายซ้ำรอยเดิม แต่ถ้าเราทำความสะอาดหมดเกลี้ยง เจ้าตูบก็จะไม่กลับไปขับถ่ายอีก ฉะนั้นหากเจ้าของคนไหนไม่อยากให้สุนัขปล่อยระเบิดในบริเวณที่ไม่ต้องการละก็ ให้รีบทำความสะอาดให้หมดจดทันที แต่น้ำยาความสะอาดบ้านทั่วไปอาจจะช่วยกำจัดกลิ่นได้ไม่หมด ทางที่ดีเจ้าของควรมองหาผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดฉี่หรืออึของสุนัขโดยเฉพาะติดเอาไว้ด้วยจะดีกว่า
วิธีป้องกันหมา-แมวขับถ่ายบริเวณบ้าน
วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นที่ทั้งง่ายและได้ผลนั่นก็คือ ฉีดพ่นสเปรย์ป้องกันหมา-แมวมาฉี่หรืออึที่บริเวณหน้าบ้าน สเปรย์สูตรเฉพาะเหล่านี้จะมีกลิ่นที่หมา-แมวไม่ชอบ และเป็นกลิ่นที่พวกมันคิดว่าไม่ปลอดภัย ฉะนั้นจึงควรนำมาฉีดพ่นอยู่บ่อยๆ หรือก่อนจะพวกมันจะเข้ามาทำธุระเพียงไม่กี่นาที ถึงจะได้ผลดีอย่างที่ต้องการ
2. ขวดพลาสติกใสใส่น้ำเปล่า
ปกติหมา-แมวจะไม่กล้าเข้ามาฉี่หรืออึในพื้นที่ที่มีสัตว์อื่นอยู่ โดยการนำขวดพลาสติกใสขนาด 1 ลิตร มากรอกน้ำเปล่าให้เต็ม แล้วนำไปวางไว้ตามจุดที่มันเคยฉี่หรืออึ เมื่อพวกมันเห็นเงาตัวเองในขวดน้ำก็คิดว่าเป็นตัวอื่น และไม่กล้าเข้ามาปล่อยของอีก
3. ติดตั้งกระจกเงาสะท้อน
4. เปลี่ยนที่ถ่าย เป็นที่ให้อาหาร
หมา-แมวก็มีสัญชาตญาณไม่ปลดทุกข์ในพื้นที่ที่กินอาหาร ดังนั้นสามารถนำเกร็ดความรู้นี้มาใช้แก้ปัญหาได้ โดยการทำความสะอาดหน้าบ้านให้เกลี้ยงเกลาจนไม่เหลือคราบสกปรกเดิม แล้วนำอาหารไปวางไว้ตรงจุดนั้นๆ เมื่อพวกมันมากิน มันก็จะไม่มาถ่ายอีกต่อไป
5. โรยพริก จำกัดสิทธิ์ห้ามถ่ายทุกข์
คุณสมบัติที่ทั้งฉุนทั้งแสบจมูกของพริกป่นและพริกไทยก็สามารถแก้ปัญหานี้ได้ เพียงแค่ทำความสะอาดบริเวณที่หมา-แมวเคยมาทำธุระให้สะอาดไร้ร่องรอยเดิม แล้วนำพริกป่นหรือพริกไทยมาโรยไว้ตรงบริเวณนั้นในปริมาณที่พอเหมาะ ควรโรยอย่างระมัดระวัง โดยให้อยู่เหนือลม เพื่อป้องกันไม่ให้เข้าจมูกเราเอง และเปิดประตูและหน้าต่างไว้ไม่ให้พริกปลิวเข้าบ้าน หากทำอย่างนี้บ่อย ๆ พวกมันก็จะรู้สึกฉุนจมูกจนไม่กล้ามาอีก
6. น้ำส้มสายชูราดลงพื้น หมา-แมวไม่กล้าฝืนเข้ามาแน่
นอกจากกลิ่นฉุนที่ทำให้หมา-แมวขยาดแล้ว พื้นเปียก ๆ ก็ช่วยได้เหมือนกัน ให้นำน้ำส้มสายชูมาผสมน้ำในปริมาณที่เท่า ๆ กัน จากนั้นออกแรงลงมือทำความสะอาดบริเวณหน้าบ้าน แล้วนำน้ำส้มสายชูไปราดลงบนจุดที่พวกมันปลดทุกข์ให้ทั่ว เมื่อพื้นทั้งเปียกและมีกลิ่นฉุนขนาดนี้ รับรองหมา-แมวต้องรีบหนีไปแน่นอน
หลายคนคงคุ้นเคยดีว่าจาระบีมีกลิ่นฉุนรุนแรงขนาดไหน ฉะนั้นเพียงแค่นำมาป้ายไว้ตามจุดต่าง ๆ ที่พวกมันเคยมาปล่อยของไว้ ก็จะทำให้พวกมันได้กลิ่นฉุนจาระบีมาแต่ไกล จนไม่อยากเข้ามาใกล้หน้าบ้านเราอีก
8. แอมโมเนีย เคลียร์พื้นที่ให้โล่ง
สูตรของเหลวอื่น ๆ อาจจะต้องราดให้พื้นเปียกแฉะ แต่สูตรแอมโมเนียแค่ทำความสะอาดหน้าบ้านเตรียมไว้ก่อน จากนั้นนำแอมโมเนียไปหยดไว้จุดที่หมา-แมวชอบมาถ่าย เพียงพวกมันได้กลิ่นก็ไม่อยากเข้ามาใกล้แล้ว
9. ทุบลูกเหม็นโรยหน้าบ้าน ปล่อยกลิ่นจัดการได้ผล
10. ผสมน้ำยาดับกลิ่นราดพื้น
อีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้พื้นเปียกจนหมา-แมวไม่กล้าเข้ามาทำธุระ นั่นก็คือ ให้นำน้ำยาดับกลิ่น หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค 1 ส่วน มาผสมน้ำเปล่า 4 ส่วน แล้วนำไปราดพื้นหน้าบ้านให้เปียกก่อนเวลาที่หมา-แมวจะมา เมื่อมันเห็นพื้นเปียกแถมยังมีกลิ่นแปลก ๆ มันก็จะเปลี่ยนใจทันที
11. ย้ายที่ปลดทุกข์อย่างแนบเนียน
วิธีนี้ต้องใช้ความอดทนและความสม่ำเสมอหน่อยนะคะ ถ้าพบเจออึของพวกมันบริเวณหน้าเมื่อไร ก็ให้รีบนำอุปกรณ์มาตักและย้ายไว้วางในที่ที่คุณเห็นว่าสมควรให้พวกมันปลด ทุกข์ และพื้นที่ตรงนั้นจะต้องไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ทำอย่างนี้บ่อย ๆ สักวันพวกมันก็คล้อยตามไปปลดทุกข์ในที่ที่คุณจัดหาไว้ให้
12. เลี้ยงสุนัขพันธุ์ดุไว้ในบ้าน สร้างเจ้าประจำถิ่น
ในเมื่อคนไม่สามารถเจรจากับหมา-แมวได้ เราก็ต้องใช้พวกมันนี่แหละเจรจากันเอง หากใครที่มีโครงการจะเลี้ยงหมาอยู่แล้ว แนะนำให้เลือกหมาพันธุ์ที่มีนิสัยค่อนข้างดุไปเลยค่ะ เพราะเมื่อหมา-แมวตัวอื่นๆ ได้กลิ่นมันจะไม่กล้าเข้าฉี่หรืออึที่บ้านแน่ๆ
กฎหมายเรื่องอึหมาที่ต้องรู้
โดยทางกฎหมายได้ระบุเอาไว้ว่าหากเจ้าของปล่อยให้สุนัขมาขี้บนถนน หรือหน้าบ้านคนอื่นแล้วไม่เก็บให้เรียบร้อย ถือว่ามีความผิดถูกปรับไม่เกิน 500 บาท ซึ่งตามพระราชบัญญัติ รักษาความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 ได้ระบุเอาไว้ดังนี้
- ตามมาตร 14 ห้ามมิให้ผู้ใดปล่อยให้สัตว์ถ่ายมูลบนถนน และมิได้ขจัดมูลดังกล่าวให้หมดไป
- มาตรา 52 ผู้ใดฝ่าฝืนตามาตร 14 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาท
และอีกสิ่งหนึ่งที่เจ้าของสุนัขควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจเลี้ยงสัตว์ก็คือ ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสุนัข พ.ศ. 2548 ข้อ 26 ประกอบกับพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 ซึ่งได้มีการระบุตามมาตรา 73 วรรค 2 เอาไว้ว่า
- เจ้าของสุนัขต้องควบคุมสุนัขไม่ให้ก่อเหตุเดือดร้อนรำคาญ ที่ก่อให้เกิดเสียงดังติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน
- ต้องรักษาสถานที่สำหรับเลี้ยงสุนัขให้สะอาดอยู่เสมอ รวมถึงจัดเก็บสิ่งปฏิกูลให้ถูกสุขลักษณะเป็นประจำ ไม่ปล่อยให้เป็นที่สะสมหมักหมมจนเกิดกลิ่นเหม็นรบกวนผู้อื่นที่อยู่บริเวณใกล้เคียง
- ต้องกำจัดสิ่งปฏิกูลอันเกิดจากสุนัขในที่สาธารณะ หรือในที่อื่นใดในเขตกรุงเทพมหานครโดยทันที
- เมื่อสุนัขตายเจ้าของสุนัขต้องกำจัดซากสุนัขให้ถูกสุขลักษณะ เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นแหล่งเพราะพันธุ์แมลงหรือสัตว์นำโรค ซึ่งต้องทำด้วยวิธีที่ไม่ก่อเหตุรำคาญ และไม่เป็นเหตุให้เกิดการปนเปื้อนของแหล่งน้ำ
- หากพาสุนัขสายพันธุ์ที่ดุร้ายออกไปในที่สาธารณะต้องผูกสายลากจูงตลอดเวลา โดยสายจูงต้องมีความยาวไม่เกิน 50 ซม. หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท
- หากสุนัขไล่กัด หรือทำร้ายผู้อื่น มีโทษปรับ 2 เท่า ปรับไม่เกิน 5,000 บาท รวมถึงต้องชดใช้ค่าเสียหาย ค่ารักษาพยาบาล และทำขวัญแก่ผู้เสียหาย
บทสรุป
การเลี้ยงสัตว์หรือเลี้ยงหมาแมว เป็นสิ่งที่เจ้าของต้องมีความรับผิดชอบในการดูแลตั้งแต่ตัดสินใจรับเลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นการดูแลในเรื่องสุขภาพ อาหาร ความสะอาด และการขับถ่าย ในบทความนี้ได้แนะนำวิธีการฝึกสุนัขขับถ่าย รวมถึงกฎหมายในเรื่องนี้ด้วย ใครที่กำลังกลุ้มใจเรื่องหมาแมวที่เราเลี้ยงไม่ยอมขับถ่ายเป็นที่เป็นทาง และสร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนบ้าน สามารถนำวิธีการข้างต้นไปใช้ฝึกสุนัขขับถ่ายเพื่อแก้ปัญหานี้ได้เลย
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง
- พาสุนัขเที่ยว ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
- สุนัขไอ มีอาการและการรักษาอย่างไร
- ปัญหาก้อนขน ในทางเดินอาหารแมวมีวิธีป้องกันอย่างไร
- เสื้อแมว จำเป็นต้องใส่ไหม
ที่มาของบทความ